เปิดหัวงานใหม่ ได้ประตูเบิกร่อง ก่อนที่จะ ผู้เล่นสำรองลงมากดประตูลำดับที่สอง และก็จบท้าย

เปิดหัวงานใหม่ ใจความสำคัญ ที่น่าดึงดูด จากเกมที่สนาม แคร์โรวว์ โร้ด จะมีอะไรบ้าง มีจุดไหนที่น่าเอ่ยถึง มาดู 5 หัวข้อสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในเกมนี้กัน การประสานงานอันพอดี ของเหล่าแนวรุก “ลิเวอร์พูล” ไม่ว่ากลุ่มไหนเจอต่างก็จำต้องปวดหัว เหลือเพียงพวกเขารักษาฟอร์มการเล่นอย่างนี้ไว้ให้ได้

• แนวรุกคืนฟอร์มน่าประทับใจ

4 แนวรุกกับ 3 ประตูนับว่าเป็นเรื่องที่อดยิ้มมิได้แน่สำหรับบรรดาสาวก “เดอะ ค็อป” การได้มองเห็น โชต้า, ฟีร์มีโน่ แล้วก็ ซาลาห์ มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด เป็นอะไรที่น่าอุ่นใจกับวันเริ่มฤดูใหม่ 2021/22 ซาลาห์ มีส่วนกับอีกทั้งสามประตู โดยประตูแรกจะจัดว่าเขาแอสซิสต์ก็ว่าได้ แม้ว่าจะจับบอลไม่ดีไถลไปเข้าทางปืนของ โชต้า เบิกสกอร์แรกปลดล็อก

ก่อนที่จะเจ้าตัวจะยืนเหมาะสมถูกเวลา เก็บตกบอลจังหวะสองแล้วก็ใช้ไหวพริบเฉือนบอลมาหน้าประตูให้ “บ็อบบี้” ที่ลงเป็นตัวสำรองแทนหน้าแข้งโปรตุกีส ทำแต้มลำดับที่สอง รวมทั้งประตูลำดับที่สามนับว่าเป็นประตูประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก เลยก็ว่าได้ ครั้งแรกในรอบปี

เมื่อ ซาลาห์ ตะบันด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตูทำให้เขาแปลงเป็นหน้าแข้งคนแรกซึ่งสามารถทำแต้มเกมเปิดฤดูกาลถึง 5 ครั้งติดต่อกัน ในความเป็นจริงแล้ว ซาลาห์ เกือบมีแอสซิสต์เพิ่มมากยิ่งกว่านี้ จากจังหวะที่เพียรพยายามผ่านบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ทำประตู 2 ครั้ง แต่ทว่าแนวรับ นอริช ยังช่วยสกัดทิ้งไว้ได้

• ฟาน ไดค์ รีเทิร์น

คล็อปป์ บอกตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า เฟอร์กิล ฟาน พร้อมแล้วในการลงเล่นเกมฤดูใหม่ และก็วันนี้ บอสเจเค ก็เลือกส่ง “บิ๊กเวิร์จ” ลงในสนามเกมลีกหลังหายจากการบาดเจ็บที่หัวเข่า

การได้ ฟาน ทำงานเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายยกฐานะระบบการเล่นของ หงส์แดง ไว้ได้มาก เปิดหัวงานใหม่ นอกเหนือจากเกมรับอันแข็งแกร่งแล้ว การเปลี่ยนบอลวางบอลยาวจากรับเป็นรุกของลำแข้งดัตช์ก็ทำเป็นแม่นยำ

ซึ่งทีมย่อมได้ประโยชน์จากจุดนี้ เหมือนมีอาวุธมากขึ้นมาจากฤดูกาลก่อน แม้กระนั้น การกลับคืนสนามเกมทางการทีแรกในรอบ 10 เดือนของ ฟาน ไดค์ ตอนต้นๆอาจมีสะดุดบ้าง

มีจังหวะจับบอลไม่ดี รวมทั้งโดนคู่ต่อสู้วิ่งตัดหลังกระทั่งทีมเกือบจะเสียประตู แม้กระนั้น ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยฟาน ไดค์ ก็ค่อยๆปรับจูนตนเอง รวมทั้งคืนกลับฟอร์มการเล่นที่ดีอีกที ช่วยประคองเกมยอมรับได้อย่างดีเยี่ยม https://www.nasmanlaw.com/

• แผงมิดฟิลด์ยังไม่ปัง

จากการที่ยังไม่อาจจะใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้ง ฟาบินโญ่ ลงไปในสนามพร้อมได้

ทำให้ คล็อปป์ เลือกส่ง เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และก็ นาบี้ เกอิต้า ลงทำเกมด้วยกัน อย่างไรก็แล้วแต่ มีเพียงแค่ 1 จาก 3 คนแค่นั้นที่ทำผลงานตามมาตรฐาน มันก็คือ มิลลี่ ที่รับบทบาทผู้เล่นหมายเลข 6 ซึ่งก็ทำเป็นดีระดับหนึ่ง ส่วนอีกสองรายนั้นเกือบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเยอะแค่ไหนโดยเฉพาะตอนครึ่งแรก

การถ่ายบอลของ หงส์แดง ย้ำการขึ้นทางขอบเส้นก็จริง หรือวางบอลข้ามฝั่งจากดินแดนหลังไปยังแดนหน้า ซึ่งพื้นที่กึ่งกลางเกือบจะไม่มีบทบาทต่อวิธีการทำเกมเยอะแค่ไหน รายของ เกอิต้า ดูไม่หวือหวือ เกือบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกม การปรับตัวให้กับบอลอังกฤษ ยังเป็นปัญหาสำหรับแฟนหงส์

ส่วน แชมเบอร์เลน ก็ไม่น่าติดอกติดใจกับการที่ คล็อปป์ เลือกส่งเป็นตัวจริง ตอนช่วงหลัง เพียงพอ ฟาบินโญ่ ลงมาแล้วขยับ มิลเนอร์ ไปช่วยพยุงฝั่งซ้าย เกมกึ่งกลางดูเนียนตาขึ้น มีจังหวะผ่อนหนักผ่อนค่อย ทำให้เกมไหลลื่น และก็หน้าแข้งแซมบ้าก็มีจังหวะตัดบอลสวยๆในช่วงท้ายเกม

• ตัวสำรองคุณภาพมากขึ้น

บ่อยที่ฤดูที่แล้ว คล็อปป์ มักลังเลกับการส่งตัวสำรองเพื่อลงมาแก้เกม แต่ทว่ามาในปีนี้เมื่อตัวเลือกมีมากขึ้นทำให้พวกเราได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลง

ระหว่างเกมในทางที่ดียิ่งขึ้น นอริช เริ่มมีความคิดเห็นว่า มิลเนอร์ ที่โดนหมายโทษใบเหลืองจากที่ไปทิ่ม ตีมู ปุกกี ตอนครึ่งแรก เริ่มไม่กล้าเข้าปะทะหนักเหมือนเคย ผลบอลสดภาษาไทย

ทำให้ คล็อพ เลือกส่ง ฟาบินโญ่ ลงมารับบทบาทตัวรับแทนทำให้ มิลเนอร์ ผ่อนประเด็นการเข้าปะทะ รวมทั้งทำให้เกมของ ลิเวอร์พูล กลับมาดูดีขึ้น ไม่เพียงแค่ ฟาบินโญ่ อีกผู้ที่ลงมาพร้อมเพียงกัน

อย่าง ฟีร์มีโน่ ก็มีส่วนกับเกมด้วยเหมือนกัน ทั้งยังทำประตูที่สองให้กับกลุ่มได้ ส่วนตัวสำรองคนท้ายที่สุด บอสเจเค ส่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แล้วก็เด็กวัย 18 ปีรายนี้ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี รวมทั้งมีแฟนๆรอให้กำลังใจในฝั่งที่เขายืนทำงาน

• ชำระแค้น เบิร์นลี่ย์

หงส์แดง มีคิวออกศึกบิ๊กแมตช์กับ เชลซี ในเกมที่ 3 ของฤดู แล้วก็แน่ๆว่าก่อนที่จะถึงแมตช์นั้นพวกเขาจำเป็นต้องเก็บ 6 คะแนนเต็มเอาไว้ให้ได้ นัดถัดไป สมาชิกของ คล็อพ จะกลับไปเฝ้ารัง แอนฟิลด์ ต่อกร เบิร์นลี่ย์ ที่แพ้มาในเกมครั้งแรกต่อ ไบรท์ตัน 1-2 ถึงแพ้กลุ่มของ ฌอน ไดซ์ จะแพ้มา แม้กระนั้นก็มิได้เป็นงานสบายของ “ลิเวอร์พูล” เนื่องจาก เบิร์นลี่ย์ เคยทำแสบที่ แอนฟิลด์ มาแล้ว 2 ฤดูติด