แมนซิตี้อุ่นเฮรวด “เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มหรูอย่างมากหลังจากที่ชนะในเกมปรีฤดูกาลสามนัดหมายติดเมื่อไล่ผลาญเอาชนะแบล็คพูล สมาชิกใหม่แชมเปี้ยนชิพ 4-1
แมนซิตี้อุ่นเฮรวด ในเกมฝึกซ้อมเมื่อคืนนี้วันอังคารก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดย ริยาด มาห์เรซ ฟอร์มฮอตยิง 3 เกมติด แถมนัดหมายนี้ อิลคาย กุนโดกัน เหมาผู้เดียวสองประตู โดยเกมถัดไปแมนเชสเตอร์ซิตี้ จะเปิดศึกชิงโล่การกุศล “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอ คัพ ในวันเสาร์ที่ 7 ส.ค.นี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้แชมป์พรีเมียร์ลีก แล้วก็คาราบาว คัพ เมื่อฤดูก่อนหน้านี้ เตรียมพร้อมสู้้ศึกฤดูใหม่ด้วยการลงเล่นเกมเตรียมพร้อมนัดหมายที่ 3 เมื่อคืนนี้วันอังคารที่ 3 ส.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
โดยสองเกมแรกเอาชนะ เปรสตัน 2-0 ก่อนเกมปัจจุบันจะไล่กระหน่ำ บาร์นลี่ย์ 4-0 ซึ่งเกมนี้ยังคงเล่นที่ อคาเดมี่ สเตเดี้ยม ของตนเองโดยปิดสนามไม่มีแฟนบอลเจอกับแบล็คพูล สมาชิกใหม่แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ โดยเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอสใหญ่ของเรือใบสีฟ้า แม้ว่าจะจับตัวได้หลักที่ไปรับใช้กลุ่มชาติในศึกยูโร แล้วก็โกปา อเมริกา กลับมาฝึกซ้อมกับกลุ่มสุดแท้แต่ยังไม่พร้อมสำหรับนัดหมายนี้
ล่าประตูกับรุ่นน้องอย่าง ซามูเอล เอโดซี่ และก็เบน ไนท์ ตอนที่ แบร์นาร์โด ซิลวา มีรายนามเป็นสำรอง ประเดิมมาได้เพียงแค่ 3 นาทีแรก เรือใบสีฟ้าชิงขึ้นนำอย่างเร็ว 1-0 บอลจาก ริยาด มาห์เรซ จ่ายเข้ากึ่งกลางให้ อิลคาย กุนโดกัน หมุนซัดด้วยขวาไปติดแนวรับแบล็คพูล แต่บอลเด้งไปเข้าทางปืนของ ซามูเอล เอโดซี่ ที่หลุดเข้ามาซัดผ่านตัว สจวร์ต มัวร์ เข้าไป ผลบอลสดภาษาไทย
นาที11 แบล็คพูลแทบได้ลุ้นตีเสมอข้างหลังบอลสวนกลับขึ้นมาทางด้านขวา เชย์น ลาเวรี่ หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปก่อนเฉือนลึกมากมายลางประตูให้ จอช โบว์เลอร์ ยิงไม่ดีโผบินโด่งผ่านคานไปอย่างโชคร้าย แม้กระนั้นแล้วนาที 20 แนวรับของซิตี้มาพลาดเองข้างหลัง เชย์น ลาเวรี่ ฉุดกระชากบอลเข้าไปในจุดโทษก่อนโดน รูเบน ดิอาส หน้าแข้งเยี่ยมยอดพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทำฟาวล์ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าให้จุดลูกโทษโดยทันที
ก่อนที่จะเป็น ลุค การ์บัตต์ กัปตันกลุ่มที่สังหารเข้าไปไม่ผ่านให้แบล็คพูล ไล่ตีเสมอ 1-1 แล้วก็นับเป็นการเสียประตูแรกของสมาชิก เป๊ป ในตอนปรีฤดูกาล นาที25 ยกเอา กานเซโล่ ตัดบอลออกขวาให้ ริยาด ยักษ์เรซ ก่อนที่จะอดีตกาลปีกเลสเตอร์ ซิตี้จะคืนให้ กานเซโล่ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาซัดเปรี้ยงเดียวบอลโผบินคานออกไป “ซิตี้” ยังครอบครองบอลได้เหนือกว่านาที 34 ได้ลุ้นจากจังหวะคราว มาห์เรซ เลี้ยงกินตัวเข้าไปก่อนจ่ายเลียดออกไปทางเสาไกลให้ไอ้หนู เอโดซี่ ที่เล่นได้เด่นมาทุกนัดหมายตะบันด้วยขวาแม้กระนั้นยังโดน สจวร์ต มัวร์ ตีบอลออกไปได้
นาที43 ผู้ร่วมทีมของ เป๊ป ได้เสียวอีก จากจังหวะที่ มาห์เรซ แทงขึ้นหน้าให้ ยกเอา กานเซโล่ ที่วันนี้เพิ่มขึ้นสูงสุดกำลังหลุดเข้าไปทางเสาแรกก่อนที่จะล็อคหลบด้วยขวาแล้วซัดด้วยซ้ายแต่ว่าก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านแบล็คพูล
แมนซิตี้อุ่นเฮรวด จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ซิตี้เสมอกับ แบล็คพูล 1-1
แมนซิตี้อุ่นเฮรวด กลับมาเล่นกันต่อในช่วงหลังนาที 48 เรือใบสีฟ้าแซงขึ้นนำอีกทีเป็น 2-1 จากจังหวะเข้าทำอันเยี่ยมจากจังหวะที่ กุนโดกัน ดีดคืนให้ แฟร์นานดินโญ่ ตักบอลยาวไปด้านขวาให้ ริยาด มาห์เรซ จับบอลลงแล้วซัดแทงเสาสองโดยเด็ดขาด ทำสถิติยิงต่อเนื่องกันในเกมลับหน้าแข้งปรีฤดูกาล 3 นัดหมายติด
นาที58 ผู้ร่วมทีมของ เป๊ป มาหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ เล่นทีเผลอเปิดฟรีคิกเร็วเข้าไปในกรอบให้ อิลคาย กุนโดกัน ใส่เข้ามาแปสวนตัวนายด่านแบล็คพูล เข้าไป นาที75 สกอร์ของเรือใบสีฟ้า หนีไปไกลเป็น 4-1 จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ หยอดมาในกรอบให้ อิลคาย กุนโดกัน แทรกแนวรับแบล็คพูล ก่อนจับบอลลงแล้วซัดเข้าไปนุ่มๆเป็นประตูลำดับที่สองของห้องเครื่องชาวเยอรมันในเกมนี้ จัดว่าตกอับ
ตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯซิตี้ไล่ผลาญเอาชนะแบล็คพูล 4-1 คว้าชัยสามเกมติดในตอนปรีฤดูกาล โดยโปรแกรมนัดหมายถัดไปของเรือใบสีฟ้า จะเปิดศึกชิงโล่การกุศล “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอ คัพ ในวันเสาร์ที่ 7 ส.ค.นี้
เรอัลมาดริดงานเข้า!โครสโดนโรคไส้เลื่อนโจมตีส่อชวดเล่นต้นฤดูกาล
แมนซิตี้อุ่นเฮรวด เรอัล มาดริด บอกเอง โทนี่ โครส มีอาการป่วยเป็นโรคไส้เลื่อนที่พบได้เป็นพิเศษในกรุ๊ปนักกีฬา ทำให้เขาบางทีก็อาจจะอดลงเล่นในตอนต้นฤดู เรอัล มาดริด สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่เวที ลา ลีกา ประเทศสเปน เผยออกมาว่า โทนี่ โครส มิดฟิลด์คนสำคัญของกลุ่ม มีลักษณะโรคไส้เลื่อนของนักกีฬา
ซึ่งโดยมากแล้วเป็นอาการที่เกิดแถวรอบๆขาหนีบ แล้วก็หัวหน่าวของนักกีฬา ก่อนหน้าที่ผ่านมาจอมบุกชาวเยอรมันไม่มีท่าทีว่าจะมีลักษณะเจ็บแม้กระทั้งเล็กน้อย โดยเขายังลงเล่นให้กลุ่มชาติเยอรมนีในศึก ยูโร 2020 ได้อย่างมาก
โดยภายหลังจบศึกนั้นเขาก็ได้พักก่อนจะเพิ่งจะมารายงานตัวฝึกกับสังกัดเดิม การที่ โครส ได้รับบาดเจ็บในคราวนี้ทำให้ไม่เป็นที่แจ่มกระจ่างว่าเขาจะช่วยสังกัดเดิมในตอนต้นฤดูกาลได้ไหม เพราะเหตุว่าการดูแลรักษามันจะต้องปฏิบัติงานอย่างถี่ถ้วนเพื่อเขาฟื้นได้อย่างเหมาะควร
ซึ่งถ้าหากเขาลงเล่นไม่ไหวแล้วนั้น เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, มาร์ติน โอเดการ์ด หรือ อีสโก้ ก็คงจะมีลุ้นได้เป็นตัวจริงแทน
