ฝีมือยอดเยี่ยม อาเดรียง ราบิโอต์ก็เข้าปะทะหนักอีกครั้งใส่ โรดริโก เด เปาล์ซึ่งเป็นกองกลางอาร์เจนตินาที่ยอดเยี่ยมจนถึงทุกวันนี้
ฝีมือยอดเยี่ยม เป็นเวลานานแล้วที่เราได้เห็นการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ดูไม่สมดุล แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังดีสำหรับเมสซีแอนด์โค เมื่อพวกเขานำอย่างสบาย ๆ ในช่วงพักเบรก พวกเขาโจมตีอย่างเด็ดขาด ตั้งรับโดยมีปัญหาเล็กน้อย และดึงคีเลียน เอ็มบัปเป้ออกจากเกมโดยสิ้นเชิง จนทำให้ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ โค้ชชาวฝรั่งเศสเปลี่ยนตัวสองครั้งก่อนพักครึ่งเพื่อช่วยเกมนี้โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์(กองหน้านิรนาม)และเดมเบเล่(ที่เสียจุดโทษ)ถูกถอนออกหลังจากประตูที่สองอันน่าทึ่งของอาร์เจนตินา แต่มันจะสร้างความแตกต่างหรือไม่? อาร์เจนตินาครองบอลได้มากกว่า 60%
ในครึ่งแรก บวกหกนัดเป็นศูนย์ (1.46) ช่วงพักครึ่งของพวกเขาให้ความรู้สึกที่ถูกต้องเมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพของพวกเขา มีทางกลับเข้าสู่เกมสำหรับฝรั่งเศสหรือไม่? ตัวสำรอง (มาร์คัส ตูราม, รานดัล โกโล มูอานี่) ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เลส เบลอส์ คอนโทรลได้มากขึ้นในแดนกลางและออกไปในแนวกว้างมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ดันเอ็มบัปเป้ให้มีบทบาทในแนวรุกมากขึ้น ซึ่งหวังว่าจะได้ครองบอลมากขึ้น และมีโอกาสมากขึ้นที่จะวิ่งเข้าไปในอวกาศ เดส์ช็องส์ เป็นกลเม็ดที่กล้าได้กล้าเสีย แต่เขาไม่มีทางเลือก การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไม่มีการทำโอเวอร์โอเวอร์
นาทีที่35อังเคล ดิ มาเรีย ออกสตาร์ทได้อย่างน่าประหลาดใจสำหรับอาร์เจนตินาที่แทบไม่ได้ลงเล่นในรอบน็อกเอาต์ ได้เปรียบสองเท่าในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมสซี, จูเลียน อัลวาเรซ และอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ รวมจังหวะสวนกลับที่ยอดเยี่ยมจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง และดิ มาเรียอยู่ที่นั่นเพื่อรับบอลจังหวะสุดท้าย สัมผัสและพลิกแพลงเหนือกว่าโยริสที่ทำอะไรไม่ถูก เลส บลูส์ ดูไม่เหมือนทีมป้องกันแชมป์เลยในรายการนี้ แต่ก็โชคดีเสมอในช่วงเวลาสำคัญในรอบน็อกเอาต์ แต่อาร์เจนติน่าและเมสซี่ดูไม่มีอารมณ์ร่วม เกมเปลี่ยนแปลง
อีกหนึ่งสถิติของเมสซี่ ด้วยจุดโทษนั้น ผู้เล่นหมายเลข10ที่โดดเด่นกลายเป็นผู้เล่นชายคนแรกที่ทำประตูในรอบน็อกเอาต์ทั้งสี่ของฟุตบอลโลก
หลังจากทำประตูกับออสเตรเลีย(รอบ 16 ทีมสุดท้าย), เนเธอร์แลนด์(รอบก่อนรองชนะเลิศ),โครเอเชีย(รอบรองชนะเลิศ)และตอนนี้ฝรั่งเศสใน สุดท้าย. เมสซี่ยิงจุดโทษ! อาร์เจนติน่า1-0ฝรั่งเศส! นาทีที่22ไม่นานหลังจากการพยายามทำประตูครั้งแรกของฝรั่งเศส อาร์เจนตินาโจมตีอย่างรวดเร็วและได้จุดโทษเมื่ออุสมาน เดมเบเล่สะดุดล้มอังเคล ดิ มาเรียหลังจากที่ฝ่ายซ้ายเดินเข้าไปในกรอบเขตโทษจากปีกซ้าย ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะชี้ไปที่จุดนั้นและขึ้นบันไดให้เมสซี่ … ผู้ซึ่งส่ง โยริส ผิดทางอย่างใจเย็นด้วยเท้าข้างต่ำเข้ามุมขวา!
ประตูที่12ของเมสซีในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอาจเป็นประตูที่สำคัญที่สุดของเขาเมื่อพวกเขาขึ้นนำ ยุติธรรมที่จะบอกว่าพวกเขาต้องการประตูมากกว่านี้ …เฮ้ เรารู้จักพวกเขา ปอล ปอกบา ของ เลส บลูส์ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในกาตาร์ของฝรั่งเศสเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ต้นขาเมื่อเดือนตุลาคม กำลังอยู่บนอัฒจันทร์เพื่อเชียร์เพื่อนร่วมทีมของเขาร่วมกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ของสวีเดน ฝรั่งเศสได้โอกาสทำประตูแรก นาทีที่20ความกดดันอีกครั้งของอาร์เจนตินาจบลงด้วยความหงุดหงิดเมื่อเมสซี่ข้ามต่ำจากด้านขวาไปโดยสิ้นเชิง
โดยเมสซี่และเดินไปทางดิมาเรียทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษซึ่งระเบิดใส่ฝูงชน ครู่ต่อมา เลส บลูส์ ตอบโต้ด้วยการกดดันและรับฟรีคิกในจุดที่อันตรายทางด้านซ้ายของประตู โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ได้โหม่ง แต่ปีนข้ามกองหลังสองคนเพื่อเข้าถึงบอล ปัญหาสำหรับฝรั่งเศส? นาทีที่11ความตื่นเต้นของฝรั่งเศสยังคงแสดงออกมาอย่างต่อเนื่องในการแลกเปลี่ยนเปิด และเรามีโอกาสสำคัญเป็นครั้งแรกของวัน การเล่นที่ชาญฉลาดของลิโอเนล เมสซีและอังเคล ดิ มาเรียทำให้โรดริโก เดอ ปอลได้ยิงโล่งๆ ซึ่งลูกเตะมุมต่ำเบี่ยงออกไปกว้าง ชาวฝรั่งเศสล้มเหลวในการเคลียร์ https://www.nasmanlaw.com
